อส. ชี้แจงประเด็น “การเลี้ยงเหยี่ยวให้ล่าสัตว์ป่าคุ้มครองและกระทำเป็นการพนัน”
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชี้แจงประเด็น "การเลี้ยงเหยี่ยวให้ล่าสัตว์ป่าคุ้มครองและกระทำเป็นการพนัน” สรุปสาระสำคัญดังนี้
กรณีการเสนอข่าวของสื่อมวลชน ทางสถานีโทรทัศน์ รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ประจำวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๐ และสื่อทางอิเลคทรอนิค ช่องไทยรัฐออนไลน์ ประจำวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๐ ว่า มีกลุ่มชาวบ้านผู้เลี้ยงเหยี่ยวนำเหยี่ยวไปเล่นการพนัน โดยการแข่งขันสั่งการหรือบังคับให้เหยี่ยวล่าเหยื่อซึ่งเป็นสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ หากเหยี่ยวของบุคคลใดล่าสัตว์ป่า ซึ่งเป็นเหยื่อตามธรรมชาติได้มากกว่า ก็จะได้รับเงินพนัน จำนวน ๙,๐๐๐ บาท เหตุเกิดบนเส้นทางในหมู่บ้านใกล้ทุ่งนา ท้องที่อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา นั้น
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า มีคณะบุคคลจำนวน 5 คน ได้เดินทางเข้าไปในหมู่บ้านใกล้ทุ่งนา ท้องที่อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา จากนั้นจึงได้ร่วมมือกันควบคุม/สั่งการให้เหยี่ยว ออกไปจับหรือล่าสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดอื่นในธรรมชาติเพื่อเป็นอาหาร โดยมีภาพของซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ที่เหยี่ยวจับได้จากธรรมชาติ จำนวน 3 รายการ คือ นกกวัก จำนวน 4 ซาก, นกพริก จำนวน 3 ซาก และเป็ดแดง จำนวน 2 ซาก รวมซากสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ทั้งหมด 9 ซาก
อนึ่ง เหยี่ยวที่ปรากฏในคลิปข่าวของสื่อมวลชนนั้น เป็นเหยี่ยวแฮริส หรือ Harris hawk ชื่อวิทยาศาสตร์ Parabuteo unicinctus ลักษณะทั่วไป จัดเป็นนกล่าเหยื่อขนาดกลาง พบได้ทั่วไป ในอเมริกา ชิลี อาร์เจนติน่า และยุโรป เป็นสายพันธุ์ยอดนิยม ในการนำมาเลี้ยง และได้รับการฝึกให้เป็นเหยี่ยวสำหรับล่าสัตว์ ลำตัวมีขนสีน้ำตาลเข้ม ส่วนบริเวณหัวไหล่ และโคนขามีสีขนแบบลูกเกาลัด(Shestnut) ส่วนบริเวณด้านในปีก และปลายปีกมีขนสีขาว โดยมีขาและจงอยปากสีเหลือง เพศผู้น้ำหนักประมาณ 546-850 กรัมเพศเมียน้ำหนักประมาณ 766-1633 กรัม ทำรังวางไข่บนต้นไม้ขนาดเล็กหรือบนต้นกระบองเพชร ออกไข่ครั้งละ2-4 ฟอง ไข่จะฟักออกเป็นตัว ใช้เวลา31-36 วัน สามารถ ผสมพันธุ์ ได้ปีละ2-3 ครั้ง พฤติกรรมการล่า สามารถล่าได้เป็นฝูงๆละ2-6 ตัว เป็นนกล่าเหยื่อเพียงชนิดเดียวที่ล่าเหยื่อเป็นฝูงได้ ราคาตัวละประมาณ 60,000-80,000 บาท แต่เนื่องจากเหยี่ยวแฮริส ไม่พบในประเทศไทยตามธรรมชาติ จึงมิได้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 แต่อย่างใด แต่การที่นำเหยี่ยวแฮริส ออกไปจับหรือล่าสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดอื่นในธรรมชาติ เป็นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535
การกระทำหรือร่วมกันกระทำดังกล่าวข้างต้น กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เห็นว่าเข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 16 ข้อหาล่า หรือพยายามล่า ซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมาตรา 19 ข้อหามีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต บทกำหนดโทษ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 16 มาตรา 19 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน สี่ปีหรือปรับไม่เกิน สี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจ ของสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า ได้ดำเนินการกล่าวโทษ ต่อชายดังกล่าวทั้ง ๕ คน ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธร บางน้ำเปรี้ยว เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2560 ไว้แล้ว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการติดตามผู้ถูกกล่าวหาเพื่อ นำมาดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะเร่งประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนทราบว่า การกระทำในลักษณะดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ถ้าผู้ใดพบเห็นให้แจ้งไปยังที่สายด่วน 1362 หรือแจ้งหน่วยงานของกรมอุทยานฯ ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ต่อไป