ทส. แถลงผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาให้ชุมชนบางกลอย พร้อมเสนอ “แก่งกระจาน” ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
วันนี้ (2 กรกฎาคม 2564) เวลา 11.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แถลงผลการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาให้กับชุมชนบ้านบางกลอย อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี พร้อมเผย รัฐบาลไทย เตรียมนำเสนอพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานเพื่อขอรับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ผ่านการประชุมทางไกลของคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 44 ระหว่างวันที่ 16 – 31 ก.ค. 2564 โดยยืนยันจุดยืนรัฐบาลไทย ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน รวมถึงปัญหาอื่น ๆ ในพื้นที่บ้านบางกลอยในทุกมิติตามหลักกฎหมาย อย่างต่อเนื่อง โดยจากที่ที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 43 ในปี 2562 ขอให้ไทยดำเนินการเกี่ยวกับชุมชนท้องถิ่นในพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน 3 เรื่อง ได้แก่ 1) ข้อเรียกร้องของชุมชนกะเหรี่ยง 2) การแก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชน และ 3) การรับฟังความคิดเห็นต่อการเสนอพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลก ทั้งนี้ ในปี 2564 ไทย ได้มีความพยายามเชิญสหภาพสากลว่าด้วยการอนุรักษ์ (IUCN) มาติดตามตรวจสอบและให้คำแนะนำต่อการดำเนินงานเพื่อนำเสนอเป็นแหล่งมรดกโลก จำนวน 3 ครั้ง แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด - 19 (COVID – 19) จึงทำให้ไม่สามารถเดินทางมาปฏิบัติภารกิจได้ ทั้งนี้ ในการดำเนินการทำด้วยความโปร่งใส มีกระบวนรับฟังความคิดเห็นและมีการติดตามตรวจสอบการดำเนินงานในพื้นที่ร่วมกับนานาชาติ ซึ่งรวมถึงองค์กร IUCN ประจำประเทศไทยด้วย
สำหรับการดำเนินงานที่ผ่านมา รัฐบาลไทย ให้ความสำคัญกับสิทธิในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนท้องถิ่นที่อยู่อาศัยในพื้นที่ โดยไม่กระทบต่อวิถีชีวิตดั้งเดิม รวมถึงสิทธิในความมั่นคงและการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากร และได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายสิทธิมนุษยชน ซึ่งแสดงให้เห็นจากการปรับปรุง พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และ พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 โดยกำหนดให้มีการสำรวจการถือครองที่ดินของประชาชนที่อยู่อาศัยหรือทำกินในเขตพื้นที่อนุรักษ์ ให้แล้วเสร็จภายใน 240 วัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัติบังคับใช้ เมื่อสำรวจการถือครองที่ดินของบ้านบางกลอยพบว่า มีราษฎรผู้ได้รับการตรวจสอบและบริหารจัดการพื้นที่ 97 ราย สำรวจได้ 143 แปลง เนื้อที่ประมาณ 600 ไร่ โดยมอบผลการสำรวจและแผนที่ล่าสุดให้กับชุมชน เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2562
นอกจากนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนในการบริหารจัดการพื้นที่และระงับข้อพิพาทในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยในปี 2562 จัดตั้งคณะกรรมการพื้นที่คุ้มครอง (PAC) และได้แต่งตั้งผู้แทนกลุ่มชาติพันธุ์จากบ้านโป่งลึกและบ้านบางกลอยเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ ในส่วนของการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย จังหวัดเพชรบุรี ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานโดยให้ผู้แทนชุมชนกะเหรี่ยง ผู้แทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคม และผู้ประสานงานเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมเข้าร่วมเป็นคณะทำงาน อีกด้วย
ทั้งนี้ จากข้อมูลการสำรวจประชากรกะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่ในบ้านบางกลอย จากปี 2539 ถึงเดือนมีนาคม - เมษายน 2564 พบว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 400 คน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีหน่วยงานของรัฐจำนวนมากกว่า 20 หน่วยงาน ได้เข้าไปดำเนินการโครงการต่าง ๆ ในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 88 โครงการ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ ส่งเสริมอาชีพ และเสริมสร้างสุขอนามัย รวมถึง วิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวกะเหรี่ยง มาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ในปี 2564 และในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 (COVID – 19) หน่วยงานต่าง ๆ ได้เข้าไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชากรในพื้นที่ และแก้ไขปัญหาข้อเรียกร้องของชุมชนในเรื่องต่าง ๆ เช่น การสำรวจที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน และรูปแบบการใช้ประโยชน์ที่ดินของราษฎรบ้านบางกลอย ซึ่งจากการดำเนินงาน พบว่า ผู้อพยพ เมื่อปี 2539 จำนวน 51 ราย มีที่ทำกิน 104 แปลง เนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ และผู้ครอบครองใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มครอบครัวขยาย รุ่นลูก/หลาน จำนวน 44 ราย มีที่ทำกิน 50 แปลง เนื้อที่ประมาณ 300 ไร่ รวมเนื้อที่ประมาณ 800 ไร่ การพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลสำหรับการบริโภค โดยการสำรวจและขุดเจาะน้ำบาดาลเพิ่มเติมและก่อสร้างระบบประปาบาดาลสำหรับการบริโภคในพื้นที่ พร้อมติดตั้งระบบสูบน้ำบาดาลพลังงานแสงอาทิตย์และอุปกรณ์ รวมถึง จุดบริการน้ำดื่มสะอาดผ่านระบบน้ำ RO (Reverse Osmosis) สำหรับชุมชน มีกำลังการผลิตได้สูงสุดวันละ 20,000 ลิตร/วัน และเปิดใช้เมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 การจ้างแรงงานในชุมชนกะเหรี่ยง เพื่อเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานในตำแหน่งงานต่าง ๆ เช่น การจ้างแรงงานทั่วไป พนักงานสัญญาจ้าง พนักงานประจำ ลูกจ้างชั่วคราว พนักงานในหน่วยไฟป่า และแรงงานสำรวจแหล่งน้ำเบื้องต้น เป็นต้น โครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 7.5 KW การจัดทำแปลงสาธิตการใช้ประโยชน์ที่ดินรวม 80 ไร่ ของราษฎร 8 ราย การสำรวจพื้นที่เพื่อวางแผนออกแบบการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ถังน้ำ และแนวท่อส่งน้ำเพื่อสนับสนุนแปลงสาธิต โดยสูบน้ำจากแม่น้ำเพชรบุรี การขยายระบบสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ การส่งเสริมกองทุนต่างๆ ของชุมชน โรงสีกาแฟ พัฒนากิจกรรมต่อเนื่องเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรม การถ่ายทอดความรู้และพัฒนาศักยภาพให้เกษตรกร และพัฒนากิจกรรมต่อเนื่องของกลุ่มอาชีพต่าง ๆ รวมทั้ง การให้ความช่วยเหลือต่อชุมชนโดยการแจกเครื่องอุปโภค บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง
ทส. แถลงผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาให้ชุมชนบางกลอย พร้อมเสนอ “แก่งกระจาน” ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
วันนี้ (2 กรกฎาคม 2564) เวลา 11.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แถลงผลการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาให้กับชุมชนบ้านบางกลอย อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี พร้อมเผย รัฐบาลไทย เตรียมนำเสนอพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานเพื่อขอรับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ผ่านการประชุมทางไกลของคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 44 ระหว่างวันที่ 16 – 31 ก.ค. 2564 โดยยืนยันจุดยืนรัฐบาลไทย ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน รวมถึงปัญหาอื่น ๆ ในพื้นที่บ้านบางกลอยในทุกมิติตามหลักกฎหมาย อย่างต่อเนื่อง โดยจากที่ที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 43 ในปี 2562 ขอให้ไทยดำเนินการเกี่ยวกับชุมชนท้องถิ่นในพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน 3 เรื่อง ได้แก่ 1) ข้อเรียกร้องของชุมชนกะเหรี่ยง 2) การแก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชน และ 3) การรับฟังความคิดเห็นต่อการเสนอพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลก ทั้งนี้ ในปี 2564 ไทย ได้มีความพยายามเชิญสหภาพสากลว่าด้วยการอนุรักษ์ (IUCN) มาติดตามตรวจสอบและให้คำแนะนำต่อการดำเนินงานเพื่อนำเสนอเป็นแหล่งมรดกโลก จำนวน 3 ครั้ง แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด - 19 (COVID – 19) จึงทำให้ไม่สามารถเดินทางมาปฏิบัติภารกิจได้ ทั้งนี้ ในการดำเนินการทำด้วยความโปร่งใส มีกระบวนรับฟังความคิดเห็นและมีการติดตามตรวจสอบการดำเนินงานในพื้นที่ร่วมกับนานาชาติ ซึ่งรวมถึงองค์กร IUCN ประจำประเทศไทยด้วย
สำหรับการดำเนินงานที่ผ่านมา รัฐบาลไทย ให้ความสำคัญกับสิทธิในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนท้องถิ่นที่อยู่อาศัยในพื้นที่ โดยไม่กระทบต่อวิถีชีวิตดั้งเดิม รวมถึงสิทธิในความมั่นคงและการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากร และได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายสิทธิมนุษยชน ซึ่งแสดงให้เห็นจากการปรับปรุง พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และ พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 โดยกำหนดให้มีการสำรวจการถือครองที่ดินของประชาชนที่อยู่อาศัยหรือทำกินในเขตพื้นที่อนุรักษ์ ให้แล้วเสร็จภายใน 240 วัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัติบังคับใช้ เมื่อสำรวจการถือครองที่ดินของบ้านบางกลอยพบว่า มีราษฎรผู้ได้รับการตรวจสอบและบริหารจัดการพื้นที่ 97 ราย สำรวจได้ 143 แปลง เนื้อที่ประมาณ 600 ไร่ โดยมอบผลการสำรวจและแผนที่ล่าสุดให้กับชุมชน เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2562
นอกจากนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนในการบริหารจัดการพื้นที่และระงับข้อพิพาทในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยในปี 2562 จัดตั้งคณะกรรมการพื้นที่คุ้มครอง (PAC) และได้แต่งตั้งผู้แทนกลุ่มชาติพันธุ์จากบ้านโป่งลึกและบ้านบางกลอยเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ ในส่วนของการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย จังหวัดเพชรบุรี ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานโดยให้ผู้แทนชุมชนกะเหรี่ยง ผู้แทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคม และผู้ประสานงานเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมเข้าร่วมเป็นคณะทำงาน อีกด้วย
ทั้งนี้ จากข้อมูลการสำรวจประชากรกะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่ในบ้านบางกลอย จากปี 2539 ถึงเดือนมีนาคม - เมษายน 2564 พบว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 400 คน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีหน่วยงานของรัฐจำนวนมากกว่า 20 หน่วยงาน ได้เข้าไปดำเนินการโครงการต่าง ๆ ในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 88 โครงการ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ ส่งเสริมอาชีพ และเสริมสร้างสุขอนามัย รวมถึง วิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวกะเหรี่ยง มาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ในปี 2564 และในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 (COVID – 19) หน่วยงานต่าง ๆ ได้เข้าไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชากรในพื้นที่ และแก้ไขปัญหาข้อเรียกร้องของชุมชนในเรื่องต่าง ๆ เช่น การสำรวจที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน และรูปแบบการใช้ประโยชน์ที่ดินของราษฎรบ้านบางกลอย ซึ่งจากการดำเนินงาน พบว่า ผู้อพยพ เมื่อปี 2539 จำนวน 51 ราย มีที่ทำกิน 104 แปลง เนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ และผู้ครอบครองใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มครอบครัวขยาย รุ่นลูก/หลาน จำนวน 44 ราย มีที่ทำกิน 50 แปลง เนื้อที่ประมาณ 300 ไร่ รวมเนื้อที่ประมาณ 800 ไร่ การพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลสำหรับการบริโภค โดยการสำรวจและขุดเจาะน้ำบาดาลเพิ่มเติมและก่อสร้างระบบประปาบาดาลสำหรับการบริโภคในพื้นที่ พร้อมติดตั้งระบบสูบน้ำบาดาลพลังงานแสงอาทิตย์และอุปกรณ์ รวมถึง จุดบริการน้ำดื่มสะอาดผ่านระบบน้ำ RO (Reverse Osmosis) สำหรับชุมชน มีกำลังการผลิตได้สูงสุดวันละ 20,000 ลิตร/วัน และเปิดใช้เมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 การจ้างแรงงานในชุมชนกะเหรี่ยง เพื่อเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานในตำแหน่งงานต่าง ๆ เช่น การจ้างแรงงานทั่วไป พนักงานสัญญาจ้าง พนักงานประจำ ลูกจ้างชั่วคราว พนักงานในหน่วยไฟป่า และแรงงานสำรวจแหล่งน้ำเบื้องต้น เป็นต้น โครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 7.5 KW การจัดทำแปลงสาธิตการใช้ประโยชน์ที่ดินรวม 80 ไร่ ของราษฎร 8 ราย การสำรวจพื้นที่เพื่อวางแผนออกแบบการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ถังน้ำ และแนวท่อส่งน้ำเพื่อสนับสนุนแปลงสาธิต โดยสูบน้ำจากแม่น้ำเพชรบุรี การขยายระบบสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ การส่งเสริมกองทุนต่างๆ ของชุมชน โรงสีกาแฟ พัฒนากิจกรรมต่อเนื่องเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรม การถ่ายทอดความรู้และพัฒนาศักยภาพให้เกษตรกร และพัฒนากิจกรรมต่อเนื่องของกลุ่มอาชีพต่าง ๆ รวมทั้ง การให้ความช่วยเหลือต่อชุมชนโดยการแจกเครื่องอุปโภค บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง